ASSURE MODEL : เศรษฐกิจพอเพียง

สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Blog เรื่องราวดีๆจากนักศึกษาครู มช.วันนี้ดิฉันจะนำเสนอการสอนวิชาเศรษฐศาสตร์ มัธยมต้นเรื่อง "เศรษฐกิจพอเพียง" 
ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
 ผ่านกระบวนการ ASSURE MODEL จะเป็นอย่างไรนั้น ไปดูกันเลยค่ะ

****************
ก่อนอื่นต้องมีการกำหนดเนื้อหาดังนี้ 
สาระสำคัญ

การนำหลักการของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิต ย่อมส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคคลและสังคมไทยอย่างสมดุลและยั่งยืน 

ตัวชี้วัด

ส 3.1 ม 1/3 อธิบายความเป็นมา หลักการ และความสำคัญของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงต่อสังคมไทย

จุดประสงค์การเรียนรู้

  1. อธิบายหลักการเศรษฐกิจพอเพียงได้
  2. อธิบายวิธีการประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการดำรงชีวิตได้
  3. อธิบายความสำคัญและประโยชน์ของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงต่อสังคมไทยได้


สาระการเรียนรู้

  1. หลักการของเศรษฐกิจพอเพียง
  2. การประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการดำรงชีวิต
  3. ความสำคัญ คุณค่า และประโยชน์ของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงต่อสังคมไทย


สรุปเนื้อหา   เศรษฐกิจพอเพียง.net

*************************************

เข้าสู่กระบวนการสอนผ่าน "Assure Model" 6 ขั้นตอน

1. Analyze learners (การวิเคราะห์ผู้เรียน)

            ขั้นนี้จะทำให้ผู้สอนเข้าใจลักษณะของผู้เรียนและสามารถที่จะจัดการเรียนการสอน ใช้สื่อ ให้เหมาะสมกับผู้เรียน เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ทางการเรียนเรื่อง "เศรษฐกิจพอเพียง โดยจะวิเคราะห์ผ่าน 2 ลักษณะ ดังนี้
  1. ลักษณะทั่วไป โรงเรียนสหศึกษา โรงเรียนขนาดใหญ่ มีนักเรียน 1,000 คน เปิดสอนตั้งแต่มัธยมศึกษาปีที่ 1-6 เป็นโรงเรียนประจำอำเภอ นักเรียนส่วนมากมีฐานะปานกลางไปจนถึงยากจน มีความรู้พื้นฐานแตกต่างกัน บางคนสูงและบางคนยังไม่ค่อยมีพื้นฐานเลย
  2. ลักษณะเฉพาะ เป็นการวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา มีผลต่อการเลือกวิธีการสอนและสื่อการเรียนการสอน ดังนี้
    2.1.วามรู้และทักษะพื้นฐานของผู้เรียนในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง นักเรียนบางคนยังไม่มีความรู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงแต่เคยได้ยินมาบ้าง 2.2. นักเรียนบางคนยังมีทักษะการอ่านและวิเคราะห์ต่างจากกลุ่มเพื่อนส่วนมาก
  

2. State objectives (การกำหนดวัตถุประสงค์)

              ในการเรียนการสอนต้องมีการกำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน ควรเป็นวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม ที่กำหนดความสามารถของผู้เรียนว่าจะทำอะไรได้บ้าง ในระดับใด ภายใต้เงื่อนไขใดไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้สามารถเลือกใช้วิธีการเรียนการาอน รวมถึงสื่อการสอนได้อย่างเหมาะสม โดยกำหนดได้ 3 ด้าน ดังนี้

             1. ด้านพุทธิพิสัย 
          1.1 สามารถอธิบายหลักการเศรษฐกิจพอเพียงได้
          1.2 สามารถอธิบายวิธีการประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการดำรงชีวิตได้
          1.3 สามารถอธิบายความสำคัญและประโยชน์ของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงต่อสังคมไทยได้

          2. จิตตพิสัย
          2.1 ผู้เรียนมีความพอเพียง
          2.2  ผู้เรียนมีทัศนคติ ค่านิยม ความรู้สึกที่ดี ต่อคำว่าเศรษฐกิจพอเพียง

          3. ทักษะพิสัย  
          3.1ผู้เรียนสามารถอธิบายคำว่าเศรษฐกิจพอเพียงมีความสำคัญและสามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำได้ได้



  3. Select instructional methods, media, and materials 
(การกำหนดสื่อการเรียนการสอน)




การเลือกสื่อที่มีอยู่แล้ว


  • หนังสือเรียนวิชาสังคมศึกษา สาระเศรษฐศาสตร์
  • เครื่องฉายโปรเจคเตอร์
  • เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ้ค
สื่อประเภทเทคนิคหรือวิธีการ

  • การอภิปรายกลุ่ม
  • การฝึกปฏิบัติ
  • สภาพแวดล้อมภายในโรงเรียน
การปรับปรุง หรือดัดแปลงสื่อที่มีอยู่แล้ว  
         

        นำเนื้อหาใกล้ตัวมาเชื่อมโยงความสัมพันธ์กับเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจได้ง่ายขึ้น นำสิ่งของรอบตัวมายกตัวอย่างความเป็นเศรษฐกิจพอเพียง นำเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาเชื่อมกับเครื่องฉายเพื่อให้ผู้เรียนได้เห็นภาพและเข้าใจบทเรียนมากยิ่งขึ้น
การออกแบบสื่อใหม่
         หากไม่สามารถใช้คอมพิวเตอร์และเครื่องฉายได้ สามารถสร้างโมเดลเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อให้ผู้เรียนเห็นภาพ พร้อมกับอธิบายให้ผู้เรียนมีความเข้าใจในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมากยิ่งขึ้น


4. Utilize media and materials (การใช้สื่อ)
ขั้นตอนการใช้สื่อการเรียนการสอน มีขั้นตอนสำคัญอยู่ 4 ขั้นตอนดังนี้ 
1. ดูหรืออ่านเนื้อหาในสื่อ / ทดลองใช้ ก่อนนำสื่อการเรียนการสอนมาใช้จำเป็นต้องมีการตรวจสอบเนื้อหาว่าตรงตามวัตถุประสงค์หรือไม่ หากพบปัญหาจะได้สามารถปรับปรุงแก้ไขได้ทัน
2. ดูสภาพแวดล้อม / จัดเตรียมสถานที่ การใช้สื่อการเรียนการสอนต้องมีการเตรียมสถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวก บรรยากาศ ให้เหมาะสมกับการใช้สื่อการเรียนการสอนแต่ละชนิด
3. เตรียมผู้เรียน ผู้เรียนจะเกิดการเรียนรู้จากสื่อการเรียนการสอนได้ดี ต้องมีการเตรียม โดยการเตรียมผู้เรียนให้พร้อมที่จะเรียนรู้เรื่องนั้นๆ  เป็นการแนะนำสิ่งที่จะนำเสนอ อาจเล่าเรื่อง นิยาม ของคำว่าเศรษฐกิจพอเพียง สิ่งที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจพอเพียง เป็นการเร้าความสนใจ ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ผู้เรียนมีเป้าหมายในการฟัง การดู นำไปสู่การเรียนรู้ที่ดี
4.การนำเสนอ / ควบคุมชั้นเรียน  ผู้สอนที่ทำหน้าที่ผู้เสนอสื่อการเรียนการสอนนั้น ในการนำเสนอควรปฏิบัติดังนี้      4.1 ต้องทำตัวเป็นตัวกลางที่จะทำให้การนำเสนอครั้งนั้นประสบความสำเร็จ โดยการทำตัวให้เป็นธรรมชาติ หลีกเลี่ยงท่าทางที่ไม่เหมาะสมที่ติดเป็นนิสัย    เพราะจะทำให้ผู้เรียนสนใจ ท่าทางเหล่านี้แทน
     4.2 ท่าทางการยืน ต้องยืนหันหน้าให้ผู้เรียน ถ้ายืนเฉียงก็ต้องหันหน้าหาผู้เรียน   ไม่ควรหัน ข้างหรือหันหลังให้ผู้เรียน
     4.3 ขณะที่บรรยายนำเสนอสื่อการเรียนการสอนต้องสอดแทรกอารมณ์ขันบ้างเพื่อให้เด็กเกิดอารมณ์ขบขันไม่น่าเบื่อ
    4.4 ประเมินความสนใจของผู้เรียน โดยใช้การกวาดสายตามองผู้เรียนให้ทั่วทั้งชั้นซึ่งเป็นการแสดงความสนใจผู้เรียน และวิเคราะห์สีหน้า ท่าทางของผู้เรียนไปพร้อมกัน
     4.5 อย่าใช้เวลาเตรียมสื่อนานเกินไปจะทำให้ผู้เรียนเกิดความเบื่อหน่าย

5. Require learner participation  (การกำหนดการตอบสนองของผู้เรียน)
      ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ซักถามเรื่องที่ไม่เข้าใจและมีกิจกรรมเสริมเพื่อให้ผู้เรียนได้ศึกษาด้วยตนเองอยู่เสมอ เป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมมากที่สุด แล้วสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ และการทดสอบแบบปากเปล่าและใบงานเพื่อให้ผู้เรียนทราบว่าตนมีความเข้าใจและเกิดการเรียนรู้ที่ถูกต้องหรือไม่
6. Evaluate and revise  (การประเมินการใช้สื่อ)
หลังจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแล้วนั้นจำเป็นต้องมีการประเมินกระบวนการ  การเรียนการสอนเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับผู้สอนว่าสื่อที่นำไปใช้นั้นบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้หรือไม่ โดยมีการประเมิน ดังนี้
        1.   การประเมินผลการเรียนการสอน

1.1 นักเรียนมีปฏิสัมพันธ์กับผู้สอนมากน้อยเพียงใด
1.2 นักเรียนให้ความสนใจเนื้อหาและใส่ใจบทเรียนหรือไม่
1.3 ในชั้นเรียนมีการเตรียมบรรยากาศสถานที่ที่เหมาะสมหรือไม่
1.4 การจัดลำดับเนื้อหาที่นำมาสอนเป็นไปตามลำดับขั้นตอนหรือไม่
1.5 นักเรียนสามารถช่วยกันสรุปสาระสำคัญของ "ความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ได้" 
2.   การประเมินสื่อและวิธีการเรียนการสอน

          2.1 ผู้สอนสามารถใช้สื่อได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสื่อหรือไม่

          2.2 สื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจบทเรียนได้ง่ายขึ้นหรือไม่

          2.3 สื่อมีความชัดเจนเหมาะสมกับจำนวนผู้เรียนหรือไม่

3.   การประเมินผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน
3.1 ให้ทำการทดสอบผู้เรียนก่อนและหลังทำการเรียนการสอนโดยใช้สื่อชนิดต่างๆ
3.2 สังเกตจากการสื่อสารระหว่างผู้สอนและผู้เรียน เช่น การถาม ตอบ ระหว่างการเรียนการสอน
3.3 นักเรียนสามารถทำกิจกรรมพัฒนาการคิด (แบบฝึกหัด) โดยทบทวนจากสื่อการสอนได้
3.4 ครูประเมินผลงานของนักเรียน สมรรถนะและคุณลักษณะตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้


หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกท่านนะคะ...




ความคิดเห็น